คุณรู้หรือไม่ว่า PM2.5 ในบ้านและนอกบ้านต่างกันเท่าไร

        คุณรู้หรือไม่ว่า PM2.5 ในบ้านและนอกบ้าน ต่างกันเท่าไร ช่วงที่อากาศมี PM2.5 สูงๆ  เมื่อออกนอกบ้าน เรามักจะใส่หน้ากากกันฝุ่น  แล้วเมื่อเรากลับถึงบ้าน เราก็จะถอดมันออก ... โดยที่เราไม่ได้นึกถึงเลยว่า ในตัวบ้านของเรา มีฝุ่น PM2.5 อยู่มากขนาดไหน

        ผมได้ทดลองโดยใช้เครื่องวัดได้ผลออกมาว่า ในขณะที่นอกบ้านมีฝุ่น PM2.5 อยู่ 174  ในตัวบ้านก็มีฝุ่น PM2.5 ถึง 40 นั่นหมายความว่าในบ้านมี PM2.5 น้อยกว่านอกบ้านหลายเท่าตัว แม้ว่า PM2.5 ที่ 40 ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง แต่เราจะต้องอยู่กับมันทั้งคืนโดยไม่ได้ใส่หน้ากาก

        เมื่อเร็วๆนี้ ผมได้มีโอกาสรับฟังการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ของทางพานาโซนิค ที่มีชื่อเรียกว่า Air e เมื่อฟังแล้วผมรู้สึกสนใจและได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า หลักการที่พานาโซนิคใช้ในระบบนี้ฟังดูง่ายๆ คือดูดอากาศในบ้านออกไปทิ้ง  แล้วดูดอากาศข้างนอกเข้ามาโดยทีเด็ดอยู่ตรงนี้อากาศขาเข้าจะผ่านระบบกรอง เพื่อดัก PM2.5 เอาไว้ทำให้อากาศที่เข้าบ้านไม่มีฝุ่น PM2.5 เจือปนเหลือน้อยที่สุดนอกจากนั้น  ท่อขาเข้าและท่อขาออก วางให้มาไขว้กันในรังผึ้ง ในกรณีที่ในห้องเปิดแอร์ อากาศขาออกจะถ่ายเทความเย็นให้กับอากาศขาเข้าเพื่อไม่เป็นการดูดแอร์ออกไปทิ้งเปล่าๆให้เสียพลังงาน

        ไม่รอช้าเลยครับ !! ผมรีบติดต่อให้นำระบบนี้เข้าติดตั้งในโครงการ Hcape Serene ทันที โดยวัดค่าห้องที่ไม่ได้ติดตั้งระบบมีระดับ PM2.5 สูงถึง 40 (ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน) และเมื่อติดตั้งแล้วผลปรากฏว่าระดับ PM2.5 ในห้องที่ใช้ระบบนี้อยู่มี PM2.5 เหลือเพียง 6 มคก./ลบ.ม. ซึ่งอยู่ในระดับที่ ##ดีมาก

        สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจในระบบนี้ก็เพราะผมได้มีการติดตั้งและทดสอบเป็นระยะเวลาหลายเดือน และค่าที่เกิดขึ้นก็คงที่ ซึ่งมันก็ทำให้ผมมั่น ได้แล้วว่าในบ้านที่เราใช้เป็นที่พักผ่อนปลอดภัยจากฝุ่น pm2.5 ได้อย่างแน่นอนครับ

คุณชยวีร์ คีตวรนาฏ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
กลุ่มบริษัทแฮปปี้แลนด์